ขั้นตอนการยื่นขอ วีซ่าอเมริกา ประเภทวีซ่านักเรียน
ขั้นตอนที่ 1 :
เป็นขั้นตอนการชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
1.
ชำระค่าเรียนให้กับสถาบันการศึกษาที่ต้องการจะเข้าเรียน
เพื่อให้ทางสถาบันนั้น ๆ ออกหนังสือ I-20 คือ เอกสารการ ยินยอมให้อาศัยอยู่ในสหรัฐ
ฯระยะเวลาที่สามารถอาศัยได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่หนังสือฉบับนี้ลงไว้
2.
ซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ {PIN}
เพื่อใช้สำหรับนัดหมายวันสัมภาษณ์ที่สถานทูตอเมริกาสามารถซื้อได้ 3 ทาง
2.1 ทางไปรษณีย์
สามารถใช้รหัส PIN ได้หลัง 13.00 น.ของวันทำการถัดไป
แบ่งออก
เป็น
2.1.1
ซื้อเพื่อใช้นัดหมายวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ราคา 760 บาท
2.1.2
ซื้อเพื่อใช้นัดหมายวันสัมภาษณ์ทาง Web site ราคา 456 บาท
2.2 ทางโทรศัพท์
ที่เบอร์ 001-800-13-202-2457 โดยตัดผ่านบัตร Visa , Master card ,
American Express เมื่อได้รหัส
PIN สามารถนัดหมายวันสัมภาษณ์ได้ทันที
2.3 ทาง Web Site http://thailand.us-visaservices.com
เมื่อได้รหัส PIN แล้วสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้ทันที
3. นัดหมายวันสัมภาษณ์ สามารถทำได้ 2 วิธี
3.1 ทางโทรศัพท์
ที่เบอร์ 001-800-13-202-2457 วิธีนี้สามารถพูดกับพนักงานรับสายได้ทันที
เพื่อใช้นัดหมายวันสัมภาษณ์ หรือ สอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันจันทร์
– ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น. ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่ได้รหัส PIN มา
เจ้าหน้าที่จะถาม Code ที่เราได้จากการซื้อ PIN (
จากการซื้อทางไปรษณีย์หรือทางโทรศัพท์เท่านั้น) เพื่อยืนยันว่า Code
ถูกต้องหรือไม่
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะบอกว่าต้องใช้เอกสารใดบ้างในวันสัมภาษณ์ ,
ต้องการสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ , ถามเลข Passport ,
แจ้งวันที่ว่างให้เราเลือกนัดสัมภาษณ์ เมื่อเลือกได้แล้วจะได้ Code
เพื่อใช้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในวันสัมภาษณ์จริง จะมีการส่ง E-mail มาแจ้ง
Code เพื่อยืนยันว่าเราได้ Code นั้นจริง ๆ ให้ Print
แล้วนำไปในวันสัมภาษณ์จริงด้วย
เพราะเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะผู้ที่มีรายชื่อสัมภาษณ์เท่านั้น
หากต้องการเลือนนัดวันสัมภาษณ์ ต้องใช้ Code ที่ได้มาตอนซื้อ PIN ครั้งแรก
ต้องเลื่อนก่อน 4 วันทำการก่อนถึงวันสัมภาษณ์ สามารถเลื่อนได้ 2
ครั้งรวมที่นัดครั้งแรกแล้ว
3.2 ทาง Web site http://thailand.us-visaservices.com
ได้ทุกวันตลอดเวลา หากมีข้อสงสัยต่าง ๆ
ให้พิมพ์คำถามเป็นภาษาอังกฤษแล้วส่งไปทาง E-mail
เจ้าหน้าที่จะตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษทาง E-mail เช่นกัน
ทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำจนถึงการเลือกวันนัดหมายสัมภาษณ์ เสร็จแล้วให้
Print แล้วนำไปในวันสัมภาษณ์ด้วยหากต้องการเลื่อนนัดวันสัมภาษณ์ ให้ส่ง
E-mail ไปเลื่อนที่สถานทูต visasbkk@state.gov ระบุ Subject E-mail ว่า “ Request
to Expedite a Non-Immigrant Visa Appointment “
เนื้อหาต้องเป็นภาษาอังกฤษ เขียนแบบกระชับ สิ่งที่ต้องบอกคือ
-
ชื่อ-นามสกุล
- Appointment Confirmation Number
- ประเภทวีซ่าที่ขอ
- เหตุผลที่จะไปอเมริกา
- เหตุผลที่ต้องการขอเลื่อน
- Appointment Confirmation Number
- ประเภทวีซ่าที่ขอ
- เหตุผลที่จะไปอเมริกา
- เหตุผลที่ต้องการขอเลื่อน
รอ E-mail
ตอบกลับถ้าเค้าให้เลื่อนก็จะบอกวันและเวลา นัดหมายใหม่ และ
ให้เราเข้าไปยกเลิกนัดหมายเดิมของเราด้วย จากนั้น Print E-mail ของสถานทูต
และหลักฐานการยกเลิกออกมาในวันนัดสัมภาษณ์ด้วย
4. ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่าอเมริกา ราคา 200 $ หรือ เทียบเท่าค่าเงินบาทไทยในปัจจุบัน สามารถชำระได้ที่ไปรษณีย์ 247 สาขาทั่วประเทศ สอบถามสาขาที่ชำระได้ที่ เบอร์ 1111 ไม่สามารถเรียกเงินคืนได้หากไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่า
5. ชำระค่า SEVIS FEE ราคา 200 $ SEVIS FEE: คือ ค่าธรรมเนียมการจัดการข้อมูลนักเรียนและบุคลากรต่างชาติ ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากนักเรียนต่างชาติ ผู้ยื่นคำขอวีซ่าประเภท F, M, หรือ J โดยทั่วๆ ไป หลังจากที่นักเรียนได้รับ I-20 หรือ DS-2019 ที่สถานศึกษาออกให้แล้ว นักเรียนต้องจ่าย SEVIS Fee ให้ US Department of Home Land Security ก่อนที่จะไป ดำเนินเรื่องขอวีซ่า ณ สถานกงสุล สามารถจ่ายได้ทางไปรษณีย์หรือทางอินเทอร์เน็ต https://www.fmjfee.com/index.jhtml หากจ่ายทางไปรษณีย์ ให้ใช้แบบฟอร์มของ Homeland โดยส่งไปพร้อมภาพถ่ายเอกสาร I-20 หรือ DS-2019 ทั้งนี้ ให้เก็บหลักฐานการจ่ายเงินด้วย ในกรณีที่จ่ายทางอินเทอร์เน็ต ให้พิมพ์ใบเสร็จรับเงินค่า SEVIS Fee เก็บไว้อย่างน้อย 3 ชุด ชุดแรกให้กับสถานกงสุลเมื่อไปยื่นเรื่องขอวีซ่า ชุดที่สองติดตัวช่วงเดินทางไปอเมริกา . และชุดสุดท้ายเก็บเป็นหลักฐานของตนเองตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ สถานศึกษาบางแห่งอาจเรียกเก็บ SEVIS Fee จากนักเรียนโดยตรง ซึ่งบางแห่งก็คิดค่าใช้จ่ายในการจัดการค่า SEVIS เพิ่มจากที่ต้องจ่ายให้ Home Land Security
ขั้นตอนที่ 2 :
การเตรียมเอกสาร มีดังนี้
1. Passport
มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
2. หนังสือ I-20 :
3. แบบฟอร์ม DS 156 : ต้องกรอกข้อมูลทาง Web site https://evisaforms.state.gov/ds156.asp ผ่าน โปรแกรม Adobe Acrobat Reader เท่านั้น เพื่อให้ได้ บาร์โคด้ ประจำเอกสารการขอวีซ่าของเรา ควรกรอกให้ครบทุกช่อง หากช่องไหนไม่มีข้อมูลให้กรอกเช่น ชื่อกลาง เพราะปกติคนไทยจะมีเฉพาะชื่อกับนามสกุลเท่านั้น ให้ใส่คำว่า none ห้ามเว้นว่างไว้เด็ดขาด และ ควรใช้ขนาดตัวอักษรเดียวกันทั้งหมด แนะนำให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วจะได้บาร์โคด้ จากนั้นให้ Print ออกมาเซ็นต์ชื่อให้ตรงกับ Passport แล้วแปะรูปถ่ายขนาด 5*5 พื้นหลังสีขาว ขนาดของใบหน้า 50 เปอร์เซ็นต์ของรูป ให้แปะด้านล่างของบาร์โคด้
4. แบบฟอร์ม DS 157 สามารถ Download แบบฟอร์มได้ที่ http://www.state.gov/document/79964.pdf จะ Print แบบฟอร์มออกมาเขียน หรือ กรอกลงไปเลยก็ได้ แนะนำให้กรอกผ่าน Web site เพื่อความเรียบร้อย จากนั้นให้ Print ออกมาแล้วนำไปยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วย
2. หนังสือ I-20 :
3. แบบฟอร์ม DS 156 : ต้องกรอกข้อมูลทาง Web site https://evisaforms.state.gov/ds156.asp ผ่าน โปรแกรม Adobe Acrobat Reader เท่านั้น เพื่อให้ได้ บาร์โคด้ ประจำเอกสารการขอวีซ่าของเรา ควรกรอกให้ครบทุกช่อง หากช่องไหนไม่มีข้อมูลให้กรอกเช่น ชื่อกลาง เพราะปกติคนไทยจะมีเฉพาะชื่อกับนามสกุลเท่านั้น ให้ใส่คำว่า none ห้ามเว้นว่างไว้เด็ดขาด และ ควรใช้ขนาดตัวอักษรเดียวกันทั้งหมด แนะนำให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วจะได้บาร์โคด้ จากนั้นให้ Print ออกมาเซ็นต์ชื่อให้ตรงกับ Passport แล้วแปะรูปถ่ายขนาด 5*5 พื้นหลังสีขาว ขนาดของใบหน้า 50 เปอร์เซ็นต์ของรูป ให้แปะด้านล่างของบาร์โคด้
4. แบบฟอร์ม DS 157 สามารถ Download แบบฟอร์มได้ที่ http://www.state.gov/document/79964.pdf จะ Print แบบฟอร์มออกมาเขียน หรือ กรอกลงไปเลยก็ได้ แนะนำให้กรอกผ่าน Web site เพื่อความเรียบร้อย จากนั้นให้ Print ออกมาแล้วนำไปยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วย
5. แบบฟอร์ม DS
158 : เอกสารเกี่ยวกับประวัติการทำงาน สามารถ Download
แบบฟอร์มได้ที่ http://www.state.gov/document/organization/79965.pdf เมื่อ
กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วให้ Print ออกมาแล้วนำไปยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วย
6.
หลักฐานทางการเงินต่าง ๆ ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย
ตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
ขั้นตอนที่ 3 : วันนัดสัมภาษณ์
1. เช็คเอกสารต่าง ๆ
ให้เรียบร้อย และ เซ็นต์ชื่อกำกับทุกแผ่น
2.
จัดเอกสารเรียงตามนี้
- Passport
มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- เอกสาร DS 156
- เอกสาร DS 157
- เอกสาร DS 158
- ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
- I-20
- เอกสาร DS 156
- เอกสาร DS 157
- เอกสาร DS 158
- ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
- I-20
3.
ไปก่อนเวลานัดหมายประมาณครึ่งชั่วโมง
เพราะจะไม่อนุญาตให้เข้าสถานทูตก่อนเวลานัด
4.ชำระเงินค่าซอง
เอกสารราคา 55 บาท สำหรับการจัดส่ง Passport ทางไปรษณีย์
ในกรณีที่ได้รับอนุมัติวีซ่า สามารถ download แบบฟอร์มคำ
ขอใช้บริการจัดส่งหนังสือเดินทางไปรษณีย์ได้ที่ http://bangkok.usembassy.gov/services/visa/NIVChecklist.pdf
5. ยื่นเอกสารที่ช่อง
1-3 เพื่อตรวจสอบในขั้นต้น
6.
สแกนนิ้วมือโดยใช้นิ้วชี้วางไปที่เครื่องแสกนทีละข้าง
7. สัมภาษณ์
ซึ่งจะรู้ผลทันทีว่าได้รับการอนุมัติหรือไม่
ถ้าได้ทางสถานทูตจะจัดส่งไปรษณีย์ให้ตามที่อยู่ที่เราแจ้งไว้ตอนซื้อซอง
จดหมาย หากไม่อนุมัติก็จะคืนเอกสารทั้งหมดทันที.
Credit : www.stayandstudyabroad.com/USA_visa.htm
Credit : www.stayandstudyabroad.com/USA_visa.htm
Tag : วีซ่าอเมริกา, ขอวีซ่าอเมริกา